Suvarnabhumi Airport
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok

อัปเดต: เตรียมผ่อนคลายมาตรการ ดื่มได้ถึง 5 ทุ่ม พร้อมเปิด Test & Go อีกครั้งรับนักเดินทางทุกชาติ

และจะขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

วันนี้ (20 ม.ค.) ศบค.ได้ออกมาแถลงการณ์เพื่ออัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ให้ทุกคนได้รู้กันเช่นเคย โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใหม่นิดหน่อย ทั้งเกี่ยวกับการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่ม การขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกชาติเข้าประเทศ ซึ่งเราจะมาสรุปแถลงการณ์ 60 สไลด์ให้ทุกคนอ่านกันแบบเข้าใจง่ายๆ ในบทความเดียว

อันดับแรก เริ่มที่เรื่อง ‘การปรับระดับพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ’ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. ที่จะถึงนี้ โดยลดพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เหลือ 44 จังหวัด จากเดิม 69 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ปรับเป็น 25 จังหวัด จากเดิม 0 จังหวัด และพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (สีฟ้า) ยังคงเท่าเดิม 8 จังหวัด โดยพื้นที่นำร่องฯ จะใช้มาตราการเดียวกับพื้นที่สีเหลือง – ซึ่งกรุงเทพมหานครรวมอยู่ในหมวดนี้

 

ส่วน ‘มาตรการป้องกันโควิด-19’ ยังอนุญาตให้ทุกคนจัดกิจกรรมได้เช่นเดิม จำนวนคนตามข้อบังคับแต่ละพื้นที่ และขอความร่วมมือ work from home ตามความเหมาะสม ส่วนข้อบังคับอื่นๆ ที่มีการเปลี่ยนแปลง ได้แก่

  • อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 23.00 น. (ปรับจากเดิม 21.00 น.)
  • ร้านอาหารที่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จะต้องมีเครื่องหมาย SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus เท่านั้น และต้องทำตามมาตรการ COVID Free Setting
  • สถานบันเทิง (ผับ บาร์ คาราโอเกะ) ที่ต้องการขอใบประกอบการ สามารถขอจาก คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. ได้เลยเมื่อพร้อม โดยไม่มีจำกัดระยะเวลา

 

สำหรับ ‘การเดินทางเข้าประเทศ’ มีการปรับกฎใหม่และจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 โดยจะเปิดรับนักเดินทาง ทุกชาติ ให้เข้ามาได้แบบ Test & Go ซึ่งข้อปฎิบัติมีดังนี้

  1. อนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ
  2. มีผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR เป็นลบ ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง (ออกค่าใช้จ่ายเอง)
  3. มีหลักฐานการจองที่พักใน ‘วันแรก’ และ ‘วันที่ 5’ โดยต้องเป็นโรงแรมที่มี SHA++, AQ, OQ หรือ AHQ เท่านั้น 
  4. ห้องพักในข้อ 2. จะเป็นสถานที่สำหรับการตรวจและ/หรือรอผล RT-PCR ทั้งสองครั้ง นักท่องเที่ยวออกค่าใช้จ่ายเอง โดยจะต้องมีหลักฐานการชำระเงินตรวจหาเชื้อทั้ง 2 ครั้ง
  5. ต้องอยู่รอในที่พัก/สถานที่ที่กำหนด จนกว่าจะได้รับผลตรวจ
  6. ต้องมีประกันสุขภาพขั้นต่ำ 50,000 เหรียญสหรัฐ หากประกันไม่ครอบคลุม ผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
  7. หากเกิดการระบาดมากขึ้น อาจมีการรับผู้เดินทางเข้ามาแล้วปรับใช้ระบบ Sandbox
  8. เปิดพื้นที่ Sandbox เพิ่มเติมที่เกาะและเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา ศรีราชา เกาะช้าง เกาะสีชัง เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า โดยใช้รูปแบบ Sandbox 7 คือต้องอยู่ที่พักที่เดียวต่อเนื่อง 7 วัน ระหว่างนั้นมีตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง

นอกจากนี้ ศบค.ยังประกาศเพิ่มเติมอีกว่า จะขยายสถานกาณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ทั่วประเทศ ต่อไปอีก 2 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. - 31 มี.ค. 65

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา