กลิ่นความฉาวจากหนังตัวอย่างหนังความยาว 1.15 นาที บวกกับชื่อ ปาร์ค ซานวุค ผู้กำกับมือดีชาวเกาหลีใต้ คือสองสิ่งที่ล่อให้คนดูอย่างเราตีตั๋วเข้าไปดู The Handmaiden ล้วงเล่ห์ลวงรัก ในโรงเมื่อสี่ปีที่แล้ว และมันก็กลายเป็นหนังที่หักมุมซ้ำซ้อน หลอกคนดูเก่งที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยดูมา
The Handmaiden ถูกดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากนิยายอังกฤษเรื่อง Fingersmith ของ ซารา วอเตอร์ ที่ตีพิมพ์เมื่อปี ค.ศ.2002 (ฉบับแปลไทยชื่อ ‘เล่ห์รักนักล้วง’ โดยนันทวัน เติมแสงศิริศักดิ์) โดยเปลี่ยนฉากหลังยุควิคตอเรียนในหนังสือ มาเป็นเกาหลีช่วงปี 1930 ยุคที่เกาหลีตกอยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่น
เรื่องราวส่วนใหญ่ดำเนินอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ปกคลุมด้วยบรรยากาศสุดอึมครึม ราวกับมีความลับซ่อนอยู่ในทุกซอกทุกมุม หนังเล่าเรื่องผ่านสามตัวละครหลัก คือ ซุคฮี (คิม เตรี) เด็กสาวนักล้วงกระเป๋าที่โตมาในครอบครัวมิจฉาชีพ ถูกหัวหน้าแก๊งส่งมาเป็นนางนกต่อในคราบสาวใช้ที่คฤหาสน์หลังนี้
ฟูจิวาระ (ฮา จองอู) หัวหน้าแก๊งมิจฉาชีพที่ต้องการฮุบสมบัติของ ‘นายหญิง’ แห่งคฤหาสน์หลังดังกล่าว เขาจึงส่ง ซุคฮี เข้าไปเป็นสาวใช้คนสนิทเพื่อคอยส่งข่าวและยุให้ฝ่ายหญิงตกหลุมรักตน
ฮิเดโกะ (คิม มินฮี) หญิงสูงศักดิ์ผู้มีสมบัติมหาศาล เหยื่อมี่ฟูจิวาระหมายตาไว้ เธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของน้าเขยจอมโหด ภายใต้ใบหน้าอันใสซื่อ ไร้เดียงสา เธอได้ซ่อนความร้ายลึกไว้อย่างแยบยล
ความสนุกของการดูหนังเรื่องนี้คือเราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย เพราะเรื่องราวเดียวกันนี้ จะถูกเล่าผ่านมุมมองของตัวละครทั้งสาม แน่นอนว่าต่างคนต่างก็มีเซอร์ไพรส์ให้คนดูอึ้งได้ตลอดทั้งเรื่อง จนไม่รู้ว่าจะเชื่อใครได้บ้าง
นอกจากนี้ The Handmaiden ยังสื่อภาพการถูกกดขี่ของเพศหญิงในสังคมชายเป็นใหญ่ออกมาได้อย่างชัดเจน ชวนให้หดหู่ใจ และเมื่อถึงคราวที่พวกเธอลุกขึ้นมาตอบโต้ด้วยวิธีที่ไม่มีชายใดคาดคิดมันจึงสาแก่ใจคนดูอย่างเรานัก
The Handmaiden เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างดราม่า อีโรติก และทริลเลอร์ จึงมี ‘ฉากรัก’ สุดเร่าร้อนและฉากเย้ายวนชวนสยิวที่มาให้เห็นเป็นช่วงๆ สลับกับงานภาพที่ดูราบเรียบและมุมภาพแปลกใหม่ในบางฉาก ทำให้คนดูได้ซึมซับอารมณ์อันหลากหลาย
The Handmaiden เป็นหนังเกาหลีเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล BAFTA สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม และรางวัลอื่นๆ อีก 65 รางวัลจากหลายเวที